วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2552

กทม.ผนึกกำลังดูแลนักท่องเที่ยวตลาดนัดจตุจักร เพิ่มเสน่ห์ท่องเที่ยวกรุงเทพฯ


กรุงเทพฯ--15 มิ.ย.2009--กทม.

กทม. จับมือ สน.บางซื่อ และหน่วยสนับสนุนตำรวจนครบาลบางซื่อ เพิ่มเสน่ห์การท่องเที่ยวกรุงเทพฯ จัดกลุ่มอาสาสมัครพนักงานการบินไทย ดูแล อำนวยความสะดวก ให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่เดินทางจับจ่ายบริเวณตลาดนัดสวนจตุจักร พร้อมประสานงานระหว่างตำรวจกับนักท่องเที่ยวในการรับแจ้งความและแจ้งเหตุต่างๆ กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เล็งขยายโครงการไปยังจุดท่องเที่ยวสำคัญอื่น ๆ อาทิ บริเวณรอบเกาะรัตนโกสินทร์

นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ ผลวานิชย์ ผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ และนายรัฐพล ทองคง ประธานหน่วยสนับสนุนตำรวจนครบาลบางซื่อ ร่วมกันแถลงความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร กองบัญชาการตำรวจนครบาล 2 และหน่วยสนับสนุนตำรวจนครบาลบางซื่อ เพื่อร่วมมือกันในการให้ความช่วยเหลือแก่นักท่องเที่ยว ตามโครงการร่วมมือกันจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวตลาดนัดจตุจักร เพื่อให้ความช่วยเหลือประสานงานระหว่างตำรวจกับนักท่องเที่ยว ในการรับแจ้งความ แจ้งเหตุต่างๆ รวมถึงอำนวยความสะดวก และบริการให้ความช่วยเหลือทั่วไปแก่นักท่องเที่ยวบริเวณตลาดนัดสวนจตุจักร

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า นับเป็นเรื่องดีที่หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนร่วมมือกันให้ในการความช่วยเหลือแก่นักท่องเที่ยวบริเวณตลาดนัดสวนจตุจักร เนื่องจากตลาดนัดสวนจตุจักรเป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งจับจ่ายที่มีชื่อเสียงของกรุงเทพมหานคร มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาจับจ่ายนับแสนคนต่อสัปดาห์ การดูแลให้ความช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกในทุกด้านแก่นักท่องเที่ยวจึงนับเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญอย่างมาก อีกทั้งจะเป็นเสน่ห์ดึงดูดนักเที่ยวให้เดินทางกลับมาเที่ยวกรุงเทพฯ อีกครั้ง เป็นการสร้างรายได้ให้กับประเทศด้วย

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวที่มาจับจ่ายในตลาดนัดสวนจตุจักรบางส่วนประสบปัญหา เช่น ถูกล้วงกระเป๋าทำให้ทรัพย์สินตลอดจนเอกสารสำคัญสูญหาย การเข้าแจ้งความกับตำรวจก็มักจะมีปัญหาในเรื่องของการสื่อสาร ความร่วมมือตามโครงการดังกล่าวที่มีอาสาสมัครซึ่งมีความสามารถในการใช้ภาษาต่างประเทศเข้ามาเป็นล่าม จะช่วยให้การดูแล อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวสามารถทำได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากการประสานงานระหว่างตำรวจกับนักท่องเที่ยวในการรับแจ้งความและแจ้งเหตุต่างๆ รวมถึงการอำนวยความสะดวกแล้ว กลุ่มอาสาสมัครยังให้คำแนะนำเกี่ยวกับข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวใน กรุงเทพฯ และจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศอีกด้วย ทั้งนี้โครงการความร่วมมือที่ตลาดนัดสวนจตุจักรจะเป็นโครงการนำร่องก่อนจะขยายไปยังจุดท่องเที่ยวสำคัญอื่น ๆ ใน กทม. อาทิ บริเวณรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ด้านนายรัฐพล ทองคง ประธานหน่วยสนับสนุนตำรวจนครบาลบางซื่อ กล่าวว่า “สถานีย่อยตำรวจนครบาลบางซื่อ” หรือ “ศูนย์บริการข้อมูลและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว” เริ่มให้บริการแก่นักท่องเที่ยวบริเวณตลาดนัดจตุจักร ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2551 เป็นต้นมา โดยมีอาสาสมัครซึ่งเป็นกลุ่มพนักงานบริการบนเครื่องของการบินไทย ประมาณ 81 คน หมุนเวียนมาให้บริการ ภายใต้กระบวนทัศน์แบบ “สถานียิ้มแย้ม” และ “บริการจุดเดียวเบ็ดเสร็จ” โดยให้ความช่วยเหลือในการแจ้งความ การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนเป็นคดีความ ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยสนับสนุนจะเป็นล่ามระหว่างนักท่องเที่ยว ผู้เสียหาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำหน้าที่เป็นพนักงานสอบสวน พร้อมอำนวยความสะดวก และอธิบายถึงขั้นตอนต่างๆ ในการแจ้งความ การเยียวยา ช่วยเหลือ ประสานงานการนำส่งผู้เสียหายและปลอบโยนผู้เสียหาย ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพต้องการ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ดูแลในเรื่องของสุขภาพโดยมีห้องปฐมพยาบาลพร้อมเวชภัณฑ์บริการแก่นักท่องเที่ยวด้วย

โอกาสนี้ กรุงเทพมหานครได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ แก่ พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ ผลวานิชย์ ผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ และนายรัฐพล ทองคง ประธานชมรมผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานตำรวจและทีมงาน ที่ได้ช่วยเหลือและสนับสนุนการทำงานของกรุงเทพมหานครในการดูแล ให้ความช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวบริเวณตลาดนัดจตุจักร นับเป็นกลุ่มบุคคลที่มีจิตสำนึกสาธารณะ อาสาทำงานเพื่อส่วนร่วมโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน อันจะเป็นตัวอย่างที่ดีแก่บุคคลทั่วไป

Source:http://www.newswit.com/news/2009-06-15/44637dc7ac335f07d0039fb0ca570e05/

สถานียิ้มแย้ม เที่ยวตลาดเจเจ


อุ่นใจทั้งไทย-เทศ
วันจันทร์ ที่ 06 กรกฎาคม 2552 เวลา 9:22 น

ตลาดนัดสวนจตุจักร ตลาดนัดอันเลื่องชื่อ สำหรับผู้ที่นิยมการชอปปิง ติดอันดับตลาดกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยจำนวนแผงค้ากว่า 8,000 แผง ที่ประกอบไปด้วย สินค้านานาชนิดให้เลือกสรร

จึงไม่แปลกที่ตลาดนัดสวนจตุจักรจะเป็นอีกจุดหมายหนึ่งที่ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ต้องบรรจุไว้ในโปรแกรมท่องเที่ยว หรือแวะเวียนมาเมื่อมีโอกาส เมื่อมีผู้คนหลากหลายทำให้เป็นจุดที่กลุ่มมิจฉาชีพแฝงกายเข้ามาก่อเหตุได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ เจ้าหน้าที่เทศกิจ หรือเจ้าหน้าที่ตลาดนัดของ กทม. ไม่ สามารถที่จะเข้าไปดูแลให้การช่วยเหลือได้อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะยิ่งในเรื่องของการป้องปรามอาชญากรรม ทำให้ส่งผลกระทบต่อภาพการท่องเที่ยว ของประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แต่ในวันนี้มีกลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มเล็ก ๆ ที่ได้รวมตัวกันด้วยจิตอาสา และใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญจากวิชาชีพ จากพนักงานฝ่ายบริการผู้โดยสารบนเครื่องบินของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) กลายมาเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยเหลือสนับสนุนการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายใต้ชื่อ “หน่วยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจ” (Police Support Unit) ที่มีกองบัญชาการเล็ก ๆ ชื่อ “สถานียิ้มแย้ม”

ความประทับใจที่สร้างรอยยิ้มให้กับนักท่องเที่ยวในวันนี้ เกิดขึ้นมาจากจุดเริ่มต้นที่ คุณรัฐพล ทองคง ปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าเที่ยวบิน ฝ่ายบริการผู้โดยสารฯ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งใช้เวลาว่างจากการทำงาน มาเป็นอาสาสมัครตำรวจบ้านในหมู่บ้านและปั่นจักรยานมาเที่ยวที่สวนจตุจักร บังเอิญได้พบกับนักท่องเที่ยวเป็นสตรีชาวต่างชาติและลูกน้อยร้องไห้อยู่ในป้อมประชาสัมพันธ์ฯ เพราะถูกประทุษร้ายต่อทรัพย์ เป็นเหตุการณ์ที่ได้จุดประกายความคิดขึ้น โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว และ พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ ผลวานิชย์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ และข้าราชการตำรวจ สน.พื้นที่ ทำให้สถานียิ้มแย้มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้ สถานียิ้มแย้ม ตั้งอยู่ในบริเวณ “ศูนย์ช่วยเหลือและคุ้มครองนักท่องเที่ยว” สถานีย่อยของสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ด้านหน้าตลาดนัดสวนจตุจักร เอกลักษณ์ของหน่วยสนับสนุนฯที่เริ่มเป็นที่คุ้นเคยกับผู้ค้าและขาประจำที่มาเที่ยวสวนจตุจักร ก็คือ เสื้อโปโลสีขาว ติดตราสัญลักษณ์ตำรวจท่องเที่ยว และตราโล่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด้วยภาพลักษณ์ที่ไม่เคร่งเครียดมากเกินไปประกอบกับใบหน้าที่ยิ้มแย้มและท่าทีที่เป็นมิตร พร้อมจะให้คำแนะนำซึ่งไม่เพียงแต่การให้ความช่วยเหลือที่สถานีเท่านั้น ยังมีชุดสายตรวจที่ออกไปช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวที่เดินเลือกซื้อสินค้าอยู่ รวมไปถึงบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยเฉพาะที่สถานีสยาม ซึ่งเป็นสถานีต้นทางที่นักท่องเที่ยวเลือกใช้บริการรถไฟฟ้ามาที่สวนจตุจักร

พี่รัฐพล เล่าให้ฟังว่า “บ้านเมืองของเราตอนนี้กำลังประสบปัญหาหลายด้าน ถ้ามีโอกาสจะทำอะไรให้เป็นประโยชน์กับส่วนรวม เราทุกคนสามารถที่นำเอาศักยภาพในตัวเองในอาชีพ หรือความเชี่ยวชาญที่มีอยู่มาช่วยกันได้ โครงการนี้ได้เพื่อน ๆ ที่ทำงาน อาสาเข้ามาช่วยกัน 81 คน ซึ่งถ้ามองจากงานในวิชาชีพแล้วพนักงานบริการผู้โดยสารบนเครื่องบิน เป็นบุคลากรที่มีทักษะในการใช้ภาษาต่างประเทศหลายภาษา มีประสบการณ์การเรียนรู้จากที่ได้เดินทางไปทั่วโลก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวหลายคนก็ประสบมาแล้วก็อยากที่จะช่วยเหลือ จนถึงขณะนี้สถานียิ้มแย้มเปิด ให้บริการนักท่องเที่ยว 8 เดือนแล้ว การทำงานในฐานะหน่วยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะมีทั้งงานบริการเกี่ยวกับข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งให้บริการนักท่องเที่ยวมากกว่า 10,000 คน และให้การช่วยเหลือเบื้องต้นกับนักท่องเที่ยว ต่างชาติ ที่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพประมาณ 5-6 รายต่อวัน (วันเสาร์-อาทิตย์)

พี่รัฐพล กล่าวอีกว่า ทุกคนที่อาสามาทำงานตรงนี้มาด้วยใจไม่มีการจัดตารางว่าใครจะต้องมาทำงานวันไหน ช่วงแรก ๆ ก็ใช้ทุนส่วนตัวของแต่ละคน เช่น ออกค่ารถกลับที่พักให้นักท่องเที่ยวที่ถูกขโมยกระเป๋า หรือใช้โทรศัพท์ส่วนตัวโทรฯไปยกเลิกบัตรเครดิตที่ต่างประเทศ เป็นต้น แต่ตอนนี้ได้ทำโปสการ์ดภาพที่ท่องเที่ยวและของที่ระลึกจำหน่ายเพื่อนำเงินมาเป็นกองทุนในการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นกับนักท่องเที่ยว ซึ่งทั้งงานประจำและงานอาสาสมัครเป็นสิ่งที่เกื้อกูลกันและได้ใช้ประโยชน์อย่างมาก ทำให้เราตื่นตัวหาความรู้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว ข้อมูลเส้นทาง ข้อมูลรถประจำทาง ตารางเดินเรือ หรือขั้นตอนการติดต่อเกี่ยวกับหนังสือเดินทาง สถานกงสุล สถานทูต นอกเหนือไปจากการสื่อสารที่ลูกเรือทุกคนมีทักษะในการใช้ภาษาอยู่แล้ว จะต้องทำให้การให้ข้อมูลและทำความเข้าใจได้ตรงกัน และที่สถานียิ้มแย้มยังมีห้องปฐมพยาบาล ซึ่งลูกเรือของการบินไทยทุกคนก็ได้รับการฝึกอบรมการกู้ชีพและปฐมพยาบาลในระดับสากล สามารถให้การช่วยเหลือผู้ที่เจ็บป่วยได้อย่างถูกวิธี

นับเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคประชาชนอย่างแท้จริง และแม้ว่า “สถานียิ้มแย้ม” ไม่อาจทำให้ผู้เสียหายที่เข้ามาด้วยความเดือดร้อนใจกลับออกไปด้วยรอยยิ้มได้ทุกคน แต่ขอเพียงแค่ได้ผ่อนคลายความทุกข์ร้อนและให้นักท่องเที่ยวกลับไปยังประเทศของตนเองโดยไม่เกิดภาพลบในใจต่อคนไทยและประเทศไทย ก็นับว่าโครงการนี้ได้สัมฤทธิผลไปขั้นหนึ่งแล้ว ที่สำคัญโครงการนี้ยังเป็นแบบอย่างให้เห็นถึงพลังแห่งจิตอาสาของคนกลุ่มเล็ก ๆ ที่จะช่วยหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความดีให้เกิดขึ้นและเติบโตแผ่ขยายไปในทุกภาคส่วนของสังคม.

Source: http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=354&contentId=6703&hilight=สถานียิ้มแย้ม