วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2552

สถานียิ้มแย้ม เที่ยวตลาดเจเจ


อุ่นใจทั้งไทย-เทศ
วันจันทร์ ที่ 06 กรกฎาคม 2552 เวลา 9:22 น

ตลาดนัดสวนจตุจักร ตลาดนัดอันเลื่องชื่อ สำหรับผู้ที่นิยมการชอปปิง ติดอันดับตลาดกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยจำนวนแผงค้ากว่า 8,000 แผง ที่ประกอบไปด้วย สินค้านานาชนิดให้เลือกสรร

จึงไม่แปลกที่ตลาดนัดสวนจตุจักรจะเป็นอีกจุดหมายหนึ่งที่ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ต้องบรรจุไว้ในโปรแกรมท่องเที่ยว หรือแวะเวียนมาเมื่อมีโอกาส เมื่อมีผู้คนหลากหลายทำให้เป็นจุดที่กลุ่มมิจฉาชีพแฝงกายเข้ามาก่อเหตุได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ เจ้าหน้าที่เทศกิจ หรือเจ้าหน้าที่ตลาดนัดของ กทม. ไม่ สามารถที่จะเข้าไปดูแลให้การช่วยเหลือได้อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะยิ่งในเรื่องของการป้องปรามอาชญากรรม ทำให้ส่งผลกระทบต่อภาพการท่องเที่ยว ของประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แต่ในวันนี้มีกลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มเล็ก ๆ ที่ได้รวมตัวกันด้วยจิตอาสา และใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญจากวิชาชีพ จากพนักงานฝ่ายบริการผู้โดยสารบนเครื่องบินของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) กลายมาเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยเหลือสนับสนุนการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายใต้ชื่อ “หน่วยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจ” (Police Support Unit) ที่มีกองบัญชาการเล็ก ๆ ชื่อ “สถานียิ้มแย้ม”

ความประทับใจที่สร้างรอยยิ้มให้กับนักท่องเที่ยวในวันนี้ เกิดขึ้นมาจากจุดเริ่มต้นที่ คุณรัฐพล ทองคง ปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าเที่ยวบิน ฝ่ายบริการผู้โดยสารฯ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งใช้เวลาว่างจากการทำงาน มาเป็นอาสาสมัครตำรวจบ้านในหมู่บ้านและปั่นจักรยานมาเที่ยวที่สวนจตุจักร บังเอิญได้พบกับนักท่องเที่ยวเป็นสตรีชาวต่างชาติและลูกน้อยร้องไห้อยู่ในป้อมประชาสัมพันธ์ฯ เพราะถูกประทุษร้ายต่อทรัพย์ เป็นเหตุการณ์ที่ได้จุดประกายความคิดขึ้น โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว และ พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ ผลวานิชย์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ และข้าราชการตำรวจ สน.พื้นที่ ทำให้สถานียิ้มแย้มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้ สถานียิ้มแย้ม ตั้งอยู่ในบริเวณ “ศูนย์ช่วยเหลือและคุ้มครองนักท่องเที่ยว” สถานีย่อยของสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ด้านหน้าตลาดนัดสวนจตุจักร เอกลักษณ์ของหน่วยสนับสนุนฯที่เริ่มเป็นที่คุ้นเคยกับผู้ค้าและขาประจำที่มาเที่ยวสวนจตุจักร ก็คือ เสื้อโปโลสีขาว ติดตราสัญลักษณ์ตำรวจท่องเที่ยว และตราโล่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด้วยภาพลักษณ์ที่ไม่เคร่งเครียดมากเกินไปประกอบกับใบหน้าที่ยิ้มแย้มและท่าทีที่เป็นมิตร พร้อมจะให้คำแนะนำซึ่งไม่เพียงแต่การให้ความช่วยเหลือที่สถานีเท่านั้น ยังมีชุดสายตรวจที่ออกไปช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวที่เดินเลือกซื้อสินค้าอยู่ รวมไปถึงบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยเฉพาะที่สถานีสยาม ซึ่งเป็นสถานีต้นทางที่นักท่องเที่ยวเลือกใช้บริการรถไฟฟ้ามาที่สวนจตุจักร

พี่รัฐพล เล่าให้ฟังว่า “บ้านเมืองของเราตอนนี้กำลังประสบปัญหาหลายด้าน ถ้ามีโอกาสจะทำอะไรให้เป็นประโยชน์กับส่วนรวม เราทุกคนสามารถที่นำเอาศักยภาพในตัวเองในอาชีพ หรือความเชี่ยวชาญที่มีอยู่มาช่วยกันได้ โครงการนี้ได้เพื่อน ๆ ที่ทำงาน อาสาเข้ามาช่วยกัน 81 คน ซึ่งถ้ามองจากงานในวิชาชีพแล้วพนักงานบริการผู้โดยสารบนเครื่องบิน เป็นบุคลากรที่มีทักษะในการใช้ภาษาต่างประเทศหลายภาษา มีประสบการณ์การเรียนรู้จากที่ได้เดินทางไปทั่วโลก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวหลายคนก็ประสบมาแล้วก็อยากที่จะช่วยเหลือ จนถึงขณะนี้สถานียิ้มแย้มเปิด ให้บริการนักท่องเที่ยว 8 เดือนแล้ว การทำงานในฐานะหน่วยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะมีทั้งงานบริการเกี่ยวกับข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งให้บริการนักท่องเที่ยวมากกว่า 10,000 คน และให้การช่วยเหลือเบื้องต้นกับนักท่องเที่ยว ต่างชาติ ที่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพประมาณ 5-6 รายต่อวัน (วันเสาร์-อาทิตย์)

พี่รัฐพล กล่าวอีกว่า ทุกคนที่อาสามาทำงานตรงนี้มาด้วยใจไม่มีการจัดตารางว่าใครจะต้องมาทำงานวันไหน ช่วงแรก ๆ ก็ใช้ทุนส่วนตัวของแต่ละคน เช่น ออกค่ารถกลับที่พักให้นักท่องเที่ยวที่ถูกขโมยกระเป๋า หรือใช้โทรศัพท์ส่วนตัวโทรฯไปยกเลิกบัตรเครดิตที่ต่างประเทศ เป็นต้น แต่ตอนนี้ได้ทำโปสการ์ดภาพที่ท่องเที่ยวและของที่ระลึกจำหน่ายเพื่อนำเงินมาเป็นกองทุนในการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นกับนักท่องเที่ยว ซึ่งทั้งงานประจำและงานอาสาสมัครเป็นสิ่งที่เกื้อกูลกันและได้ใช้ประโยชน์อย่างมาก ทำให้เราตื่นตัวหาความรู้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว ข้อมูลเส้นทาง ข้อมูลรถประจำทาง ตารางเดินเรือ หรือขั้นตอนการติดต่อเกี่ยวกับหนังสือเดินทาง สถานกงสุล สถานทูต นอกเหนือไปจากการสื่อสารที่ลูกเรือทุกคนมีทักษะในการใช้ภาษาอยู่แล้ว จะต้องทำให้การให้ข้อมูลและทำความเข้าใจได้ตรงกัน และที่สถานียิ้มแย้มยังมีห้องปฐมพยาบาล ซึ่งลูกเรือของการบินไทยทุกคนก็ได้รับการฝึกอบรมการกู้ชีพและปฐมพยาบาลในระดับสากล สามารถให้การช่วยเหลือผู้ที่เจ็บป่วยได้อย่างถูกวิธี

นับเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคประชาชนอย่างแท้จริง และแม้ว่า “สถานียิ้มแย้ม” ไม่อาจทำให้ผู้เสียหายที่เข้ามาด้วยความเดือดร้อนใจกลับออกไปด้วยรอยยิ้มได้ทุกคน แต่ขอเพียงแค่ได้ผ่อนคลายความทุกข์ร้อนและให้นักท่องเที่ยวกลับไปยังประเทศของตนเองโดยไม่เกิดภาพลบในใจต่อคนไทยและประเทศไทย ก็นับว่าโครงการนี้ได้สัมฤทธิผลไปขั้นหนึ่งแล้ว ที่สำคัญโครงการนี้ยังเป็นแบบอย่างให้เห็นถึงพลังแห่งจิตอาสาของคนกลุ่มเล็ก ๆ ที่จะช่วยหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความดีให้เกิดขึ้นและเติบโตแผ่ขยายไปในทุกภาคส่วนของสังคม.

Source: http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=354&contentId=6703&hilight=สถานียิ้มแย้ม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น